เตือน 4 อาหารที่ทำให้ไต หนักเหมือนแบกหิน พบในมื้ออาหารของทุกบ้าน

สำนักข่าว ต่างประเทศ รายงานว่า ตามที่องค์กร National Kidney ของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า 4 อาหารที่ทำร้ายไตนี้ควรได้รับการควบคุมในการรับประทาน ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคมากเกินไปเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายและลดประสิทธิภาพการทำงานของไต

1.อาหารแปรรูป

การศึกษาปี 2022 พบว่าผู้ที่บริโภคอาหารแปรรูปมากมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไตสูงขึ้นถึง 24% อาหารเหล่านี้ถูกแปรรูปมากและมีสารเติมแต่งสังเคราะห์, น้ำตาล, คาร์โบไฮเดรตขัดสี, ไขมันไม่ดี และโซเดียม แต่มีไฟเบอร์, โปรตีน และสารอาหารสำคัญน้อย ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพและเพิ่มภาระให้กับไต อาจทำให้เกิดภาวะไตเสื่อมในระยะยาว

แทนที่จะทำเช่นนั้น ลองกินอาหารที่มีคุณภาพและธรรมชาติมากขึ้น เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด.

2. การรับประทานเนื้อสัตว์มากเกินไป

โปรตีนเป็นส่วนสำคัญในอาหารของเรา ซึ่งทำหน้าที่เป็น “วัสดุที่จำเป็น” ในการสร้างกล้ามเนื้อ, ซ่อมแซมเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ, ต่อต้านการติดเชื้อ และรักษาสุขภาพ การบริโภคโปรตีนในแต่ละวันควรขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และสุขภาพของแต่ละบุคคล

โดยโปรตีนจากเนื้อสัตว์มีกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมด แต่บางชนิดอาจมีไขมันไม่ดีในปริมาณสูง การรับประทานเนื้อสัตว์มากเกินไป เช่น เนื้อแดง จะเพิ่ม “ภาระงาน” ให้กับไต ทำให้การทำงานของไตลดลงในระยะยาวและเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคไตเรื้อรัง

นอกจากนี้ การรับประทานเนื้อสัตว์มากเกินไปจะทำให้ยูเรียถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น หากไตไม่สามารถกรองออกได้จะทำให้ยูเรียสะสม ส่งผลให้กรดยูริกในเลือดสูงขึ้น ซึ่งอาจทำลายไตหรือทำให้เกิดโรคเกาต์ได้

3. เห็ด

ถูกขนานนามว่าเป็น “เนื้อจากพืช” ที่ดีต่อสุขภาพเนื่องจากมีวิตามินและแร่ธาตุสูง แต่เห็ดก็มีโพแทสเซียมสูงเช่นกัน การรับประทานเห็ดมากเกินไปในระยะยาวอาจทำให้เกิด “ความเครียดอย่างรุนแรง” ต่อไต โดยเฉพาะเมื่อปรุงด้วยน้ำมันหรือใส่พริกเผ็ดร้อนมากเกินไป

โพแทสเซียมมากเกินไปจะทำให้เกิดโรคอะไร? การมีโพแทสเซียมในเลือดสูงเกินไปสามารถเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง, อัมพาตกล้ามเนื้อ, ปวดขาและแขน, ความรู้สึกผิดปกติ, ตะคริว, คลื่นไส้และอาเจียน รวมถึงอาการใจสั่น, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, ความดันโลหิตต่ำ หรือแม้แต่หัวใจหยุดเต้น หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที.

นอกจากนี้ การมีโพแทสเซียมในเลือดสูงยังเป็นอาการของภาวะไตวายเฉียบพลันหรือโรคไตเรื้อรังอีกด้วย.

4. อาหารทะเล

อาหารทะเลมักถูกมองว่าเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหาร โดยเฉพาะปลากับสัตว์ทะเลที่มีเปลือก ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูง, กรดไขมันโอเมก้า-3 และวิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม อาหารทะเล โดยเฉพาะสัตว์ทะเลที่มีเปลือก, หมึก, ปลาซาร์ดีน ฯลฯ จริง ๆ แล้วมีพิวรีนสูงมาก

พิวรีนเป็นสารเคมีที่เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ ซึ่งในสภาวะปกติ พิวรีนจะถูกเผาผลาญที่ไตและเปลี่ยนเป็นกรดยูริก ก่อนจะถูกขับออกจากร่างกาย.

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีการทำงานของไตอ่อนแอหรือระบบย่อยอาหารและฮอร์โมนไม่ดี การขับถ่ายจะลดลง รวมถึงการทำงานของไตที่เสื่อมลง ซึ่งนำไปสู่การดูดซึมพิวรีนมากเกินไป ทำให้เกิดการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย เพิ่มความเสียหายให้กับไต เช่น นิ่วในไตที่ทำให้ท่อลำเลียงไตอุดตัน, การติดเชื้อที่ไต, ไตเสื่อม หรือโรคอื่น ๆ ที่เกิดจากการมีกรดยูริกสูงในระยะยาว.

นอกจาก 4 อาหารข้างต้นแล้ว ยังมีอาหารอื่น ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจทำร้ายไต เช่น อาหารที่มีไขมันสูง, น้ำตาลสูง, เกลือสูง, แคลอรี่สูงจากแหล่งที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ, โลหะหนัก, และน้ำมันที่ใช้ทอดซ้ำหลายครั้ง.