อาลัยดาวติ๊กต็อก วัย 19 ปี เสียชีวิตแล้ว

วันที่ 20 ธ.ค. 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวสุดเศร้าของ บีอานดริ บอยเซ็น ดาว ติ๊กต็อก ชาวแอฟริกาใต้ ว่า เธอเสียชีวิตแล้วในวัย 19 ปี หลังจากป่วยด้วยโรคโปรเจเรีย (Progeria) หรือโรคแก่ก่อนวัยมาตั้งแต่เล็ก

ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา เบีย บอยเซ็น แม่ของ บีอานดริ บอยเซ็น ได้ยืนยันข่าวมรณกรรมของลูกสาวในโพสต์บนเฟซบุ๊กของเธอ พร้อมข้อความระบุว่า ด้วยรักและอาลัยถึง บีอานดริ บอยเซ็น ส่วนในกลุ่มเฟซบุ๊กซึ่งมีชื่อว่า Beandri, Our Inspiration ซึ่งสร้างขึ้นโดยครอบครัวของบอยเซ็นเมื่อ 15 ปีก่อน เบียก็โพสต์ข้อความแจ้งข่าวว่า เราขอแจ้งข่าวเศร้าอย่างสุดซึ้งถึงการจากไปของบีอานดริ หนึ่งในหญิงสาวที่เป็นที่รักและให้แรงบันดาลใจมากที่สุดคนหนึ่งของแอฟริกาใต้

เบียเน้นถึงผลกระทบที่เกิดจากตัวบีอานดริ ว่า แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่ บีอานดริก็ยังคงเปล่งประกายแห่งความหวังและความสุขในชีวิต เธอเป็นทั้งกระบอกเสียงและสัญลักษณ์ของความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคโปรเจเรียและผู้ด้อยโอกาสอื่น ๆ รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนหมื่นด้วยจิตวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ

เบียระบุว่า บีอานดริคือผู้ป่วยโรคโปรเจเรียที่รอดชีวิตคนสุดท้ายในแอฟริกาใต้ โรคนี้มีชื่อเต็ม ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากลุ่มอาการโปรเกเรียของฮัทชินสัน-กิลฟอร์ด (Hutchinson-Gilford progeria syndrome) หรือ HGPS

นอกจากนี้ เบียยังโพสต์คลิปวิดีโออาลัยถึงบีอานดริบนพื้นที่ ติ๊กต็อก ของเธอ ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 278,000 คน โพสต์ของบีอานดรี มักได้รับคำชื่นชม โดยแฟนๆ ต่างยอมรับในความอดทนและความมองโลกในแง่ดีของเธอ ก่อนหน้านี้ บีอานดริได้รับการผ่าตัดหัวใจเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2567 โดยเธอได้โพสต์ขอบคุณแฟนๆ สำหรับคำอวยพรให้หายป่วย ต่อมา เบียก็เปิดเผยว่า หัวใจของบีอานดริหยุดเต้นแล้ว ทำให้แฟนคลับและผู้ติดตามของเธอต่างพากันเข้ามาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเธออย่างล้นหลาม

จากข้อมูลถึงเดือน ก.ย. 2567 มูลนิธิวิจัยโปรเจเรียระบุว่า มีเด็ก 17 คน ที่เป็นโรค HGPS ในสหรัฐอเมริกา สะท้อนอัตราการป่วยโดยเฉลี่ยคือ 1 ใน 20 ล้านคน

เด็กที่เป็นโรคโปรเจเรียโดยทั่วไป จะดูแข็งแรงตั้งแต่แรกเกิด แต่จะเริ่มแสดงอาการของการแก่ก่อนวัยอย่างรวดเร็วภายในสองขวบปีแรกของชีวิต อาการต่างๆ ได้แก่ การเจริญเติบโตล่าช้า ไขมันในร่างกายและผมลดลง ผิวหนังดูแก่กว่าวัย ข้อต่อแข็ง ขาดความยืดหยุ่น มีภาวะแทรกซ้อนทางหลอดเลือดและหัวใจ แต่พัฒนาการทางสติปัญญามักไม่ได้รับผลกระทบ

อายุขัยเฉลี่ยของผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่ที่ 14-15 ปี โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมอง อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายสามารถมีอายุยืนยาวถึงวัย 20 ปีเศษ

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปรเจเรีย แม้จะมีพัฒนาการในการรักษาและค้นพบยาโลนาฟาร์นิบที่ช่วยชะลอโรคและยืดอายุผู้ป่วยได้