เตรียมหักเงินเดือน 3 พนักงานเทศบาล ชดใช้หนี้ หนุ่มใหญ่ หลังจบชีวิต

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องทำงานนายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกา ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นายกิติเดช ลานทอง นายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกา พร้อมด้วย นางสมบัติ เอมเสริม ของนายเจริญ เอมเสริม ผู้เสียชีวิต และ พ.ต.ท.อิทธิกร สง่ากร สารวัตรสิบสวน ได้เปิดโต๊ะแถลงชี้แจงกรณีนายเจริญ เอมเสริม อายุ 62 ปี เสียชีวิต

โดยนายกิติเดช ลานทอง นายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกา กล่าวว่า นายเจริญ เอมเสริม นั้น เป็นพนักงานของเทศบาลตําบลลำลูกกา แต่ได้เกษียณมา 5-6 ปีแล้ว ตั้งแต่ตนยังไม่เป็นนายกเลย จนกระทั่งมาผูกคอและได้มีจดหมายมาให้ตนช่วยตามทวงนี้ให้ ตนจึงได้เรียกประชุม โดยเรียกผู้ที่มีชื่อในหนังสือดังกล่าวที่มีการยืมเงินนายเจริญมาทำการสอบถาม ว่ายืมจริงไหม ตัวเลขตรงกับในหนังสือหรือไม่ โดยมีปลัดเทศบาลและนิติกรมาทำการทำบันทึก ขอยืนยันว่านายเจริญไม่ได้มีอาชีพปล่อยเงินกู้แต่อย่างใด

โดยบุคคลแรกเป็นชาย ที่บอกว่ายืม 750,000 บาทนั้น เขาแจ้งว่าไม่จริง ทางตนก็ได้แจ้งว่า ต้องบอกความจริงไม่งั้นจะติดไปจนวันตาย เขาก็ยืนยันว่าไม่จริง โดยแจ้งว่ายืมผู้เสียชีวิตมา 34,000 ยังไม่ใช้เลย ส่วนคนที่ 2 เป็นหญิง เขาแจ้งว่ายืมมา 40,000 ใช้เงินสดไปแล้ว 30,000 เหลืออีก 10,000 เดี๋ยวจะใช้ให้

ส่วนคนที่ 3 เป็นหญิงบอกว่ายืม 30,000 บาท ทางตนได้ทำบันทึกว่า ให้ทำการหักเงินเดือนทั้ง 3 คน โดยคนแรกจะผ่อนเดือนละ 25,000 บาท ซึ่งตัวเลขไม่ตรงกับความเป็นจริงจากที่มีการสอบสวน คนที่ 2 หักเดือนละ 2,000 บาท ส่วนคนที่ 3 หักเดือนละ 2,000 บาท ในขณะที่คนที่ 4 นั้น เขาไม่ได้ทำงานในเทศบาล เราไม่สามารถไปก้าวก่ายเขาได้ แต่เขาไปคุยตกลงกันกับทางญาติจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว

ในส่วนที่ผู้เสียชีวิตนั้น มีการยืมเงินคนที่เทศบาลไป 80,000 บาท ซึ่งทางนายเจริญ เอมเสริม ได้ใช้มาแล้ว 30,000 บาท ยังเหลืออีก 50,000 ซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นมีเงินบำนาญอยู่ 250,000 บาท ก็จะได้มีการหักกันไปตามที่ผู้เสียชีวิตนั้นร้องขอมาทุกอย่าง

โดยเงินทั้งหมดที่มีการยืมเงินนายเจริญ เป็นการยืมโดยมิตรภาพและเสน่หาส่วนตัว ไม่มีเอกสารการกู้ยืมเงิน ซึ่งตนก็ไม่ทราบ มาทราบอีกทีก็ตอนมาเห็นจดหมาย โดยนายเจริญนั้นไม่เคยโทรมาหาตน หรือแม้กระทั่งมาทวงเงินที่เทศบาลก็ไม่เคยมา

ด้าน นางสมบัติ เอมเสริม กล่าวด้วยน้ำตาว่า น้องชายนั้น เป็นคนไม่ค่อยพูดโดยก่อนเกิดเหตุตนก็พยายามสอบถามเขา ซึ่งเขาก็ไม่พูดจึงได้เค้นถามเรื่องค่าใช้จ่าย จนเขาบอกว่ามีคนยืมเงิน ตนถามว่าใคร เขาก็ไม่บอกบอกเพียงว่าเป็นผู้ชายเท่านั้น ซึ่งพอมารู้ว่าน้องชายได้มายืมคนในเทศบาล ก็ได้ดุเขาไปว่านำเงินไปให้เขายืมแล้ว เขาไม่ใช้หนี้ ก็ลำบากไปยืมคนมาใช้ ซึ่งเราก็สงสารเขาจึงได้บอกเขาไป

โดยครอบครัวเรามีแต่คนแก่ พอมีการทำอาหารก็จะกินกันแต่เรา จะใช้เงินกันเองในแต่ละคนจะไม่ยุ่งกัน โดยอุปนิสัยของน้องชายนั้น จะเป็นคนเงียบ พอไปทำงานจะคุยสนุกสนานกับเพื่อนร่วมงาน แต่พอกลับบ้านจะเป็นคนเงียบ โดยผู้ที่ยืมเงินน้องไปนั้น ตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวเลย เพิ่งจะมาเห็นตอนที่เขาเข้ามาคุยเท่านั้น ซึ่งตอนเกิดเหตุตนนอนอยู่ไม่รู้เรื่อง มีคนที่เทศบาลมาบอก พอรู้ข่าวตนก็รีบเดินทางไปที่ สภ.ลำลูกกาทันที

ทั้งนี้ ตนจะไปเรียกร้องอะไรต่อผู้ยืมนั้น ตนไม่มีหลักฐาน อีกทั้งนายกิตติเดช ลานทอง นายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกา ก็มาช่วยไกล่เกลี่ย และเป็นกลางในการเจรจา ซึ่งตนก็ไม่ติดใจในเรื่องนี้ เพราะว่ามันเป็นกรรมของเขา และถึงวาระของเขาแล้วจะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย

ตอนนี้เราไม่รู้จะทำอะไรแล้ว เราเครียดไปหมดหลังเป็นข่าว เราไม่อยากจะให้ข่าวแล้วเพราะทางนั้นเขาคิดว่าเราเป็นคนสร้างข่าว ซึ่งเราไม่ได้ทำเลยขนาดโซเชียลเรายังเล่นไม่เป็นเลย ซึ่งในตอนนี้ที่เจอคนยืมทั้งหมดเขาก็ไม่ได้ขอโทษ เพราะว่านายกเป็นคนเคลียร์ให้ทั้งหมด ซึ่งเราโชคดีที่ได้นายกมาช่วยเจรจาทั้งหมด หากน้องเราไม่ได้นายกคนนี้ เราก็ไม่รู้ว่าเราจะได้ตรงนี้จากใคร และเรื่องก็จบลงด้วยดี

ทางด้าน พ.ต.ท.อิทธิกร สง่ากร สารวัตรสืบสวน กล่าวว่า ขณะนี้ทางนายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกาได้ให้ข้อมูลไปหมดแล้ว ส่วนข้อมูลเชิงลึกนั้นประเด็นไหนที่ญาติคิดใจ ทางตำรวจไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง แต่เท่าที่ฟังแล้วเป็นประเด็นเรื่องส่วนตัว แต่ข้อมูลเชิงลึกทางเราจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกที ส่วนของคนที่มีรายชื่อและกล่าวอ้างที่เป็นพยานแวดล้อมในจดหมายเราจะตรวจสอบอีกที

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า มีภาพวงจรปิดได้จับภาพของ นายเจริญ ขณะขับรถจักรยานเข้ามาในเทศบาลตำบลลำลูกกา ในช่วงเวลา 02.39 น. ของวัน 19 ธันวาคม จนกระทั่งนายเจริญนั้นวนรถกลับมาผูกคอที่ต้นไม้ในเวลา 02.53 น. และใช้เวลาผูกคอนานกว่า 5 นาที